ฟิล โฟเด้น สัมภาษณ์หลังเกม ฮีโร่แฮตทริกของแมนเชสเตอร์ ซิตี้

Share
ฟิล โฟเด้น สัมภาษณ์หลังเกม ฮีโร่แฮตทริกของแมนเชสเตอร์ ซิตี้

ฟิล โฟเด้น สัมภาษณ์หลังเกม ฮีโร่แฮตทริกของแมนเชสเตอร์ ซิตี้

สัมภาษณ์หลังเกมของ ฟิล โฟเด้น (Phil-Foden) หลังจากโปรแกรมการแข่งขัน ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจอกับ แอสตัน วิลล่า เมื่อคืนวันพุธที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา เขาได้โชว์ผลงานอันน่าทึ่ง ยิงแฮตทริก ให้แมนซิตี้ ถล่มเอาชนะวิลล่า ไปได้อย่างขาดลอย จบสกอร์ที่ 4-1 ในเกมการแข่งขัน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สัปดาห์ที่ 31 ในฤดูกาล 2023/24  ส่งผลให้ทีมยังคงมีลุ้นแชมป์ต่อได้ เหลือเวลาหลังจากนี้อีก 8 เกมเท่านั้น และมาดูกันว่า หลังจากเกมแมนซิตี้ เจอ แอสตัน วิลล่า จบไป พร้อมกับความดีความชอบของ ฟิล โฟเด้น ที่ทำแฮตทริกได้ในเกมนี้ จะส่งผลต่อตัวเขาไปในทิศทางใดบ้าง

ฟีล โฟเด้น ทำแฮตทริก

สรุปบทสัมภาษณ์ของ ฟิล โฟเด้น กองกลางตัวเก่ง “ทัพเรือใบสีฟ้า”

โฟเด้น นักเตะวัย 23 ปี ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อข่าว หลังจากเมื่อคืน  เอาชนะ แอสตัน วิลล่า ในบ้านไป 4-1 สำหรับเกมนัดนี้ เขาได้อยู่ในตำแหน่งกองกลางริมเส้น แต่ในเกมครั้งนี้เขาทำได้ดีในการรุก และ เล่นในโซนกลาง ซึ่งเขาก็ได้ออกมายอมรับว่า แท้จริงแล้ว ตัวเขาเองชอบและถนัด ที่จะเล่นเป็นตัวรุกตรงกลาง มากกว่าที่จะเล่นในริมเส้น

ซึ่งถือว่าสำหรับในเกมนี้ เขามีความพยายามอย่างมาก ทั้งลีลาและสไตล์ที่แสดงออกมาในสนาม ทำให้เห็นว่าเขาไม่ยอมแพ้ และมุ่งมั่นที่จะเก็บประตูให้ได้ หลักจากตอนแรกที่ โรดริ เปิดประตูแรกให้แมนซิตี้ 1-0 แต่ไม่นาน จอห์น ดูรัน ตำแหน่งกองหน้าของ วิลล่า ก็ปล้นประตูตีเสมอขึ้นมา จนถึงคิวของ โฟเด้นเองที่ ยิงฟรีคิกประตูนำมาให้แมนซิตี้อีกครั้ง ก่อนที่จะหมดเวลาการแข่งขันในครึ่งแรก ต่อมาในช่วงหลัง เขาก็บวกเพิ่มมาได้อีก 2 ประตู โดยเฉพาะประตูสุดท้ายที่เผลอเสียหลักไปแล้ว ก็ฮุกตัวเองขึ้นมาได้ ก่อนยิงประตูเข้าไปแบบจังๆ ท่ามกลางเสียงเชียร์และดีใจ ของเพื่อนร่วมทีมและแฟนบอลขอบสนาม ทำให้เห็นแล้วจริงๆ ว่า เขาไม่ยอมแพ้และมีความมุ่งมั่นเกินร้อยจริงๆ

จนสุดท้ายหลังจบเกมนี้ไป เขากลับได้คำติชมตามมาว่า “นี่แหละคือตำแหน่งที่ดีที่สุดของโฟเด้น” ซึ่งกลายเป็นข้อถกเถียงกันอย่างสนั่นในหมู่แฟนบอล และคาดหวังว่า กุนซืออย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และ แกเร็ธ เซาธ์เกต จะมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งของเขา ให้อยู่ในจุดที่เหมาะสม


  • ประเด็นในเรื่องของประตูฟรีคิกแรกของโฟเด้น

เขาออกมาบอกตามตรง เขาก็ไม่คิดเหมือนกันว่า เขาจะได้ทำฟรีคิกลูกนั้น แต่รู้สึกมั่นใจมากพอ เลยขอยิงฟรีคิก แทน จูเลียน อัลวาเรซ ซึ่งจูเลียน ก็ตอบรับแต่โดยดี ซึ่งในมุมนั้น ขณะที่เขาอยู่ในความกดดัน และหอบความกล้าหาญไว้เต็มอก เขามองเห็นช่องว่าง ระหว่างนิโคโล่ ซานิโอโล และเอซรี และมุมที่โอลเซ่นผู้รักษาประตูของวิลล่าจะไปไม่ถึง และสุดท้ายครั้งนี้เขาก็ทำได้สำเร็จ

สำหรับทางด้าน กวาร์ดิโอล่า ไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่ สำหรับลูกฟรีคิกนี้ เพราะมองเห็นว่า ด้านวิลล่าประมาท จนเกิดความผิดพลาด ที่เปิดช่องว่างกำแพงมากไป แต่สุดท้ายการได้ประตูขึ้นนำ 2-1 ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก ก็เป็นเป้าหมายที่ต้องการ

  • ประตูที่สองของโฟเด้น 

เขาบอกว่า ตัวเขาเองมุ่งมั่น ที่จะพยายามเข้าเขตโทษให้มากที่สุด เพราะนั่นคือเป้าหมาย และสุดท้ายเขาก็ทำได้จริงๆ ก่อนที่มั่นใจ กวาดบอล ออกจากขอบกรอบเขตโทษ เข้าประตูวิลล่าไปเต็มๆ

  • ประตูที่สามของโฟเด้น 

สำหรับประตูนี้ เป็นประตูที่มีความคล้ายคลึงของเวย์น รูนี่ย์ ที่เคยได้ทำประตูให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาแล้ว ในนัดที่เคยเจอกันกับนิวคาสเซิ่ลเมื่อปี 2005 ซึ่งทางด้านโฟเด้นเอง รู้สึกว่าเวย์น รูนี่ย์ ควรได้รับฟรีคิกจากการทำฟาวล์ในตอนนั้น แต่ก็ดีที่เขาสามารถลุกขึ้นมา และยิ่งประตูไปได้ ซึ่งด้วยความบังเอิญ ที่เหตุการณ์ตอนนั้นตัวเขาเองก็คล้ายกับจังหวะของ เวย์น รูนี่ย์  มากๆ ที่พลาดล้มกลิ้งไปกับสนาม แต่ก็ต้องลุกขึ้นมา เพื่อเก็บประตูแฮตทริกให้ตัวเอง และปิดจ๊อบ 4-1 ให้กับทีมแมนซิตี้ได้ และขณะเดียวกัน เพื่อนร่วมทีมก็ต่างทักว่า “นี่คือประตูของเวย์น รูนี่ย์ ชัดๆ” เขาเองก็รู้สึกภูมิใจมากๆ

โฟเดนเฉลิมฉลองร่วมกับเควิน เดอ บรอยน์, จอห์น สโตนส์ และเออร์ลิง ฮาแลนด์

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พูดถึงโฟเด้น

กวาร์ดิโอล่า ได้บอกว่า ผมจะพูดอะไรได้เมื่อเขายิงได้ 3 ประตู สำหรับช่วงแรกเขาอาจจะออกสตาร์ทไม่ดีเท่าไหร่ แต่สุดท้ายเขาก็ทำได้ดี นักเตะทุกคน มีพรสวรรค์เป็นของตัวเอง และสำหรับโฟเด้นเองนั้น ในเกมนัดนี้ เขามีเป้าหมายที่ดี ในตำแหน่งนั้น มันเยี่ยมจริงๆ และเขาก็มีศักยภาพที่ดี สามารถทำอะไรก็ตามที่อยากทำ ได้อย่างเต็มรูปแบบ มองว่าเขามีพรสวรรค์ โดยธรรมชาติ และไม่ใช่เรื่องง่าย ที่จะหาใครที่ทำได้แบบนี้ เพราะเหตุนี้เขาจึงมีความพิเศษมาก เขาก็คืออีกคนที่สำคัญมากจริงๆ สำหรับทีม


pap55

PAP55

สมัคร สมาชิก แทงบอล ออนไลน์

Credit by : skysports

Picture Credit by : skysports

Share

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง