ความยากลำบากของ เบนิเตซ ในการคุม เชลต้า

Share
ความยากลำบากของ เบนิเตซ ในการคุม เชลต้า

ราฟาเอล เบนิเตซ : การที่ผู้จัดการทีมเซลต้า บีโก้ กลับมาคุมทีม ในสเปนกลับกลายเป็น เรื่องเลวร้ายได้อย่างไร ?

 

ความยากลำบากของ เบนิเตซ ในการคุม เชลต้า

 

มันควรจะเป็นการกลับบ้าน อย่างยิ่งใหญ่ เป็นการเริ่มต้นของบางสิ่งที่พิเศษ สำหรับทั้งสโมสร และผู้จัดการทีม ในทางกลับกัน การกลับมาคุมของ ราฟาเอล เบนิเตซ ภายใต้การคุมทีมเซลต้า บีโก้จนถึงตอนนี้ มีผลงานที่น่าผิดหวังอย่างไม่น่าเชื่อ ทีมจากแดนตะวันตกเฉียงเหนือของสเปนตก ทำอันดับอยู่ในตกชั้นด้วย จากผลงานที่ชนะเพียงนัดเดียวจาก 13 เกม และแน่นอนว่ามันทำให้เก้าอี้ของ เบนิเตซ ไม่มั่นคง

สุดสัปดาห์นี้เขา ต้องนำทีมไปเยือน บาเลนเซีย สโมสรที่สร้างชื่อของเขาเมื่อสองทศวรรษที่แล้วด้วยการคว้าแชมป์ลาลีกา 2 สมัยในสามฤดูกาล เหนือยักษ์ใหญ่ทั้ง บาซ่า และมาดริด คุณภาพของทีมในตอนที่เขาคุม บาเลนเซีย กับการคุมทีม เซลต้า แทบจะไม่ได้ต่างกัน แต่ตอนนี้ผลงานของ กุนซือวัย 63 ปี กำลังย่ำแย่แบะโดนตั้งคำถามถึงอนาคต


ความคาดหวังสูง ความผิดหวังเร็ว

เซลต้า เปลี่ยนผู้จัดการทีม มากหน้าหลายตา ในหลายฤดูกาลที่ผ่านมา  ถ้าไม่มีใครสามารถ ยกระดับทีมได้เลย ไม่ว่าใครจะมาคุมทีม พวกเขาก็ยังคงเป็นทีม ที่ต้องดิ้นรน  ช่วงซัมเมอร์นี้  สโมสรในกาลิเซียตัดสินใจเพิ่มเดิมพันและจับตามองเบนิเตซ  ซึ่งเคยทำงานใน สเปนครั้งหลังสุด โดยคุม เรอัล มาดริด ช่วงสั้นๆ เมื่อปี 2015 เมื่อได้รับการติดต่อจาก เลต้า เบนิเตซ ไม่ได้สนใจ แต่ด้วยการโน้มน้าวบวกกับค่าจ้างที่สโมสร ให้นั้นสูงกว่าอัตราค่าจ้างปกติ เซลต้า จึงเซ็นสัญญากับ เบนิเตช ได้สำเร็จโดยตกลงสัญญาสามปี

ด้วยความคาดหวังที่สูง และระยะเวลาการเตรียมทีมที่น้อย เบนิเตซ เสียตัวหลักไปหลายคน และตัวที่เข้ามาทดแทนก็ยังทำผลงานไม่ได้ตามเป้าหมาย ทำให้ผลงานที่ออกมานั้นน่าผิดหวังเป็นอย่างมาก พวกเขารั้งอันดับ 3 จากท้ายตาราง หลังจากผ่านมา 13 นัด โดยพวกเขาเก็บแต้มได้เพียง 7 แต้ม โดยเก็บชัยชนะได้เพียงแค่นัดเดียว จากผลงานที่ย่ำแย่ ทำให้เริ่มมีแฟนบอล เรียกร้องให้สโมสร ปลดอดีตผู้จัดการทีม มาดริด รายนี้มากขึ้น


คาดหวังหลังทีมชาติ

เบนิเตซ ยังหวังว่าการเบรกทีมชาติ คือการลั่นระฆังพักยก ให้เขาและทีมได้มีเวลาคิดวางแผนแก้ปัญหาเพื่อนำทีมกลับมาทำผลงานได้อย่างที่ควรจะเป็น ตอนนี้เป้าหมายของพวกเขาคือ การหาจุดเปลี่ยนเพื่อกอบโกยแต้ม หนีจากโซนตกขั้น โดยความหวังของพวกเขายังมีอยู่เยอะมาก ด้วยที่ว่าทีมอันดับ 17 อย่าง มายอร์ก้า มีแต้มนำพวกเขาเพียง 2 คะแนน เท่านั้น และด้วยโปรแกรมลีกที่ยังคงมีให้เตะกันอีก 25 นัด เบนิเตซ เชื่อว่าเขาสามารถพา เซลต้า กลับมาโกยแต้มเพื่ออยู่รอดใน ลา ลีกา ต่อไปในฤดูกาลหน้า สิ่งที่เขาต้องทำอย่างแรกคือ ทำให้นักเตะรีดฟอร์มและเล่นตามแผนที่เขาวางไว้

 

ความยากลำบากของ เบนิเตซ ในการคุม เชลต้า

 

โชคไม่ดี หมดเวลาเหรอ?

ความคิดที่ว่าทีมของเบนิเตซ  พลาดแต้มสำคัญหลาย ๆ แต้มไปเพราะ การตัดสินที่ไม่เป็นใจของกรรมการนั้น

มันก็เป็นความจริงเพียงบางส่วนเท่านั้น คุณไม่สามารถอ้างได้ว่า ที่คุณมีผลงานย่ำแย่จากการเล่น 13 เกม เป็นเพราะการตัดสินที่ผิดพลาด ไม่เป็นธรรมของผู้ตัดสินเพียงไม่กี่เกม และความจริงก็คือ เซลต้า ทำผลงานได้แย่มาเกือบทั้งฤดูกาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมรับ เต็มไปด้วยข้อผิดพลาดที่ไม่จำเป็นและผลงานที่ต่ำกว่ามาตรฐานของแต่ละบุคคล

สถิติชี้ให้เห็นว่า เซลต้า ไม่ได้อยู่ท้ายตารางโดยบังเอิญ พวกเขาครองบอล โดยเฉลี่ยต่ำที่สุดเป็นอันดับสี่ในลาลีกา มีอัตราการยิงประตูที่แย่ที่สุดเป็นอันดับสี่ การเข้าสกัดสำเร็จ น้อยสุดในลีก เสียประตูท้ายเกม (15 นาทีสุดท้าย) 10 ประตู จาก 13 นัดที่ลงเล่น

การขาดความแข็งแกร่ง และความยืดหยุ่นในการปรับแผนการเล่น ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถของ เบนิเตซ  ฤดูกาลเริ่มต้นด้วยแบ็คโฟร์แบบพื้นฐาน  ซึ่งไม่มีผู้เล่นที่เป็นตัวยืนแบบแน่ชัด ซึ่ง เบนิเตซ เหมือนควานหาผู้เล่นคู่ในทีมยังไม่พบ

อย่างไรก็ตาม เขายังคงมีเวลาในการทำงาน  ด้วย เซลต้า ยังคงให้โอกาสและเวลา เพราะพวกเขาเชื่อว่าการด่วนเปลี่ยนผู้จัดการทีมตอนนี้ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้อง และที่สำคัญ ความจริงที่ว่าค่าชดเชยที่ทีมต้องเสียให้เขานั้น เป็นตัวเลขจำนวนมหาศาล

อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์จะต้องดีขึ้นในไม่ช้า และคิดว่า เบนิเตซ มีเวลาจนถึงช่วงพักคริสต์มาสเพื่อพลิกสถานการณ์

ไม่มีสถานที่ใดที่จะดีไปกว่าการไปเยือน บาเลนเซีย ซึ่งเป็นฉากแห่งชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาในช่วงแรก ๆ ที่จะเริ่มต้นกระบวนการนั้น การบุกไปคว้าชัยที่นั่น จะเป็นจุดเปลี่ยนในปีนี้ของ เซลต้า


88winner

88winner

แหล่งที่มา : bbc

แหล่งที่มา : khaosod

Share

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง