พรีเมียร์ลีก ประกาศอย่างเป็นทางการว่า การเทคโอเวอร์สโมสร นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด โดยกลุ่มทุนที่ได้รับการหนุนหลังจากซาอุดีอาระเบีย ได้ลุล่วงเป็นที่เรียบร้อย ด้วยมูลค่า 300 ล้านปอนด์ (13,725 ล้านบาท)
Premier League , สโมสรนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และบริษัท เซนต์ เจมส์ โฮลดิ้งส์ ของ ไมค์ แอชลี่ย์ เจ้าของสโมสรคนเก่า ได้ยุติข้อพิพาทเรื่องการเข้าซื้อกิจการสโมสร หลังจากบริษัท เซนต์ เจมส์ โฮลดิ้งส์ ฟ้องร้อง พรีเมียร์ลีก ว่าทำการขัดขวางการเทคโอเวอร์
โดยกลุ่มกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (Public Investment Fund – PIF) จากซาอุดีอาระเบีย , PCP Capital Partners ของ อแมนด้า สตาเวลี่ย์ นักการเงิน และ RB Sports & Media ของ มหาเศรษฐีพี่น้องรูเบน ได้รับการอนุมัติให้เทคโอเวอร์จาก Premier League หลังจากได้รับ “การรับรองที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย” ว่ารัฐซาอุดีอาระเบียจะไม่เข้าควบคุมสโมสร โดย PIF ซึ่งเป็นผู้จัดหาเงินทุน 80% สำหรับข้อตกลง 300 ล้านปอนด์ ถูกมองว่าแยกออกไปต่างหากจาก รัฐซาอุดีอาระเบีย
ด้วยเหตุนี้ การเทคโอเวอร์จึงผ่านการตรวจสอบความเป็นเจ้าของและกรรมการบริหารจากพรีเมียร์ลีก ทำให้สโมสรสามารถขายให้กับกลุ่มทุนดังกล่าว โดยมีผลทันที
- เฟร์ราน เรเบร์เตร์ ซีอีโอ บาร์ซา รับ สถานการณ์ของทีมเกือบล้มละลาย
- วัตฟอร์ด ตั้ง รานิเอรี เป็นกุนซือคนใหม่เรียบร้อย
- คาลวิน ฟิลลิปส์ ถอนตัวจากทีมชาติอังกฤษ
สรุปข่าว พรีเมียร์ลีก ประกาศ กลุ่มทุนซาอุดีอาระเบีย เทคโอเวอร์ นิวคาสเซิล
Premier League แถลงว่า “ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่าข้อตกลงนี้มีความจำเป็น เพื่อยุติความไม่แน่นอนที่ยาวนานสำหรับแฟนบอล เกี่ยวกับความเป็นเจ้าของสโมสร พรีเมียร์ลีกได้รับคำรับรองที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย ว่าราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียจะไม่เข้าควบคุมบริหารกิจการของสโมสร นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ทุกฝ่ายมีความยินดีที่สรุปกระบวนการนี้ เพื่อให้ความมั่นใจและชัดเจนแก่สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และแฟน ๆ ของพวกเขา”